ฟิลิปปินส์ ประเทศเกาะที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือหาดทราย มันจึงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนไม่ขาดสาย
1. อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา (Tubbataha Reef)
ใครที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง
อย่าลืมแวะเวียนมาที่ทะเลซูลู (Sulu Sea) เพราะมันเป็นที่ตั้งของอุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา
ปะการังวงแหวนอันสวยงามและมีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังคงความสมบูรณ์
รวมทั้งมีปลาทะเลมากมายหลายสายพันธุ์
โดยอุทยานแห่งชาติปะการังตุบบาตาฮาจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดำน้ำชมปะการังในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน
นั่นก็เพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าวทะเลมีคลื่นลมสงบนั่นเอง
2. โบสถ์ซานอากุสติน (San Agustin Church)
โบสถ์ซานอากุสติน
ตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา และยังเป็นโบสถ์อันเก่าแก่ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1589 ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง
เนื่องจากเคยเกิดแผ่นดินไหวถึงเจ็ดครั้งและไฟไหม้อีกสองครั้ง
ทว่าโบสถ์ซานอากุสตินยังคงรอดพ้นมาได้และคงสภาพที่สมบูรณ์เช่นเดิม
ด้านสถาปัตยกรรมนั้น ภายนอกของโบสถ์ทำจากหินส่วนภายในได้รับอิทธิพลการตกแต่งแบบเม็กซิกัน
ดังจะเห็นได้จากการออกแบบไม้กางเกงและจิตรกรรมฝาผนังโดย Giovanni Dibella และ Cesare Alberoni สองศิลปินชาวอิตาเลียนที่ได้บรรจงวาดไว้เมื่อปี
ค.ศ. 1800
3. ภูเขาไฟมายอน (Mayon Volcano)
ภูเขาไฟมายอน
ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่สวยงามซึ่งแฝงไปด้วยอันตราย
เพราะมันเป็นภูเขาไฟที่มีการปะทุบ่อยที่สุดในฟิลิปปินส์ โดยมีการปะทุถึง 49 ครั้งในรอบ 400 ปี
แต่ครั้งร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ.
1814 เป็นการปะทุแบบทำลายล้างและมีลาวาไหลไปทั่วซึ่งจะเห็นได้จากลาวาที่แข็งตัวจนกลายเป็นหินอยู่รอบพื้นที่
ทว่าความสวยงามของรูปทรงและจุดชมวิวบนยอดเขาทำให้นักท่องเที่ยวมักจะเสี่ยงขึ้นมาตั้งแคมป์,
ปีนเขา และเดินป่าเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีซากปรักหักพังของโบสถ์อันเก่าแก่ที่ถูกทำลายโดยลาวา
และยังคงเป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแชะภาพคู่
4. เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua
Island)
เกาะมาลาปาสกัว เป็นเกาะเล็ก ๆ
ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นชาวประมงที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้
นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยการดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกเพื่อชมปะการัง
นอกจากนี้มันยังเป็นที่ซึ่งคุณจะพบกับสัตว์ประจำถิ่นอย่าง ฉลามหางยาว, ปลากระเบนแมนตา และปลาฉลามหัวค้อนได้แบบง่าย ๆ หรือใครอยากจะชิลไปกับการเดินรับลมหรือนอนอาบแดดบนชาดหายสีขาวก็เป็นไอเดียที่ดี
ที่สำคัญยังมีสวนมะพร้าวมากมาย คุณจึงสดชื่นไปกับการดื่มน้ำมะพร้าวรสชาติหอมหวาน
แค่คิดก็ฟินสุด ๆ แล้ว
5. เมืองเปอร์โต กาเลรา (Puerto
Galera)
เมืองเปอร์โต กาเลรา
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา
และมันยังมีชายหาดที่ที่สวยงามขึ้นชื่อว่าต้องมาเยือนสักครั้ง
เพราะนอกจากหาดทรายขาวที่ทอดยาวขนานกับชายฝั่งแล้ว
ยังมีสัตว์น้ำทะเลหลากหลายชนิดที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของมัน
และที่พลาดไม่ได้เลย คือ หาด Muelle ที่โด่งดังเรื่องการดำน้ำชมปะการังและการล่องเรือชมความสวยงามรอบเกาะ
หรือใครที่กำลังหาสถานที่สำหรับดินเนอร์กับคนรัก
ที่นี่ก็มีร้านอาหารมากมายไว้รองรับนักท่องเที่ยว
อีกทั้งยังมีบาร์และร้านรวงหลายแห่งด้วยเช่นกัน
คุณจึงไม่เบื่อเลยกับการใช้วันหยุดยาวที่เปอร์โต กาเลรา
6. อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา
(Puerto Princesa Underground River)
อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา
ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของเกาะปาลาวัน และยังถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว
เพราะนอกจากบรรยากาศดี ๆ รอบด้านแล้ว คุณยังจะได้เห็นอันซีนฟิลิปปินส์อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลก, สัตว์ป่านานาชนิด
รวมถึงค้างคาวด้วย นับเป็นความหลากหลายทางธรรมชาติที่หาดูได้ยาก
อีกทั้งไม่ควรพลาดกับการนั่งเรือเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ
ที่รับรองว่าทำให้จินตนาการของคุณไม่หยุดนิ่งแน่นอน
7. เมืองดอนซอล (Donsol)
เมืองดอนซอล
มีชายหาดที่สวยงามและขึ้นชื่อเรื่องจำนวนฝูงฉลามวาฬที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายน
แต่ช่วงพีคสุดนั้นอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ยังมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือมาสัมผัสกับความสดชื่นบริเวณแม่น้ำดอนซอล
และในตอนค่ำคืนยังมีหิ่งห้อยนับล้านที่เปล่งแสงออกมาจากเงาไม้
ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามมากทีเดียว ที่สำคัญยังหาดูได้ยากในที่อื่น ๆ
8. ภูเขาช็อกโกแลต (Chocolate Hills)
ภูเขาช็อกโกแลต
ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของฟิลิปปินส์
ด้วยภูเขาที่มีลักษณะรูปร่างที่ใกล้เคียงกันเรียงรายอยู่ทั่วเกาะโบฮอลกว่า 1,268 ลูก ทำให้มันเป็นภาพที่งดงามและตระการตาไม่น้อย
และความงดงามของแต่ละฤดูกาลยังไม่ซ้ำกัน
โดยเฉพาะช่วงที่ภูเขาเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีส้มและสีเหลือง
จึงถือเป็นอันซีนฟิลิปปินส์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานการเกิดของภูเขาว่า
เป็นผลมาจากการต่อสู้ของยักษ์สองตน ซึ่งเมื่อตนหนึ่งแพ้และล้มตายไป
ยักษ์ซึ่งเป็นคู่รักจึงร้องไห้เสียใจจนน้ำตาหยดกลายเป็นภูเขา
แต่จากการสำรวจของผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มันเกิดความผิดปกติทางธรณีวิทยานั่นเอง
9. เกาะโบราไกย (Boracay Island)
เกาะโบราไกย
เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยสีสันของฟิลิปปินส์
ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างเนืองแน่นในทุกปี
เพราะไม่ใช่แค่วิวทิวทัศน์อันสวยงาม แต่การเดินทางก็ค่อนข้างสะดวก
เนื่องจากมีบริการรับ-ส่งจากสนามบินมายังท่าเรือ จากนั้นจึงนั่งเรือต่อมายังเกาะ
อีกทั้งยังมีที่พักบนเกาะมากมายให้คุณได้ค้างคืนชิล ๆ พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ
ได้อย่างเต็มที่ ทั้งดำนำ, ล่องเรือ และในยามราตรียังมีคาเฟ่เล็ก ๆ
ให้คุณสนุกกับแสงสียามค่ำคืนด้วย
10. นาขั้นบันไดบานาเว (Banaue Rice
Terraces)
อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่ามาเยือนฟิลิปปินส์หากไม่ได้แวะมาที่นาขั้นบันไดบานาเว
ซึ่งเกิดจากการแกะสลักภูเขาของชนเผ่า Ifugao เมื่อสองพันปีก่อนเพื่อใช้ในการทำฟาร์ม
ซึ่งเป็นที่น่าทึ่งว่าในสองพันกว่าปีก่อนนั้นยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย
ทว่าชนเผ่าเหล่านี้กลับแกะสลักภูเขาทั้งใบได้อย่างสวยงาม
และปัจจุบันมันได้กลายเป็นที่ปลูกข้าวของชาวนาที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได
ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามและยังเหมาะแก่การมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวอีกด้วย
ที่มา https://travel.kapook.com/view101744.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น